บัวพื้น คือ อะไร มีประโยชน์อย่างไร สำหรับคนที่ปูพื้นในบ้านใหม่หรือซื้อบ้านใหม่กันต้องสงสัยกันแน่ๆว่า ขอบตามผนังห้องหรือกำแพงห้องที่ติดอยู่เรียกว่าอะไร มันทำไมถึงต้องติดตั้ง เพราะบ้างบ้านก็ไม่มีติดตั้งแล้วมันช่วยอะไร ในวันนี้เราจะมาบอกประโยชน์ของขอบที่ติดอยู่ตามผนังห้องว่ามีกี่แบบและติดทำไม ช่วยอะไร หลายคนคงสงสัยกันและยังเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมตกแต่งที่โดยทั่วไปจะติดตั้งที่ฐานของผนังภายในตรงที่ติดกับพื้น ตอบสนองทั้งการใช้งานและความสวยงาม ในด้านการใช้งาน จะเป็นเกราะป้องกันส่วนล่างของผนัง ป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ เครื่องดูดฝุ่น หรือไม้ถูพื้นเสียหายได้อีกด้วยช่วยเพิ่มสัมผัสการตกแต่งให้กับห้องได้อีกด้วย

สิ่งที่ใครหลายคนสงสัยกันเรียกว่า บัวพื้น  

เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของบัวพื้น ว่ามีกี่ประเภทต่างกันอย่างไร? และควรเลือกใช้บัวพื้นแบบไหนดี ? เพื่อให้ตอบโจทย์กับบ้านและการใช้งานของคุณมากที่สุด และการเลือกใช้ยังไงให้เหมาะสมกับสีบ้านหรือความสะดวกในการติดตั้งมากที่สุด  บัวพื้นมี 5 ประเถทหลักๆที่เรามักเจอกันบ่อยๆ ก่อนเลือกซื้อเรามาทำความรู้จักบัวพื้นแต่ละชนิดกันว่ามีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

ประเภทของ บัวพื้น

1.บัวพื้นไม้จริง

บัวพื้นไม้จริง โดยทั่วไปจะผลิตจากไม้ธรรมชาติ ทั้งนี้ก็มาพร้อมกับข้อเสียจากธรรมชาติ กล่าวคือบัวพื้นไม้จริงจะหดและขยายตัวได้ตามอากาศ ใช้ไประยะหนึ่ง รอยต่อระหว่างชิ้นบัวอาจจะเกิดการแยกเป็นร่องเนื่องจากการหดตัวหรือโก่งตัว รวมทั้งยังเป็นวัสดุที่มีราคาสูง รวมไปถึงปลวกสามารถกัดกินได้ถ้าไม่ถูกดูแลอย่างสม่ำเสมออีกทั้งบัวพื้นไม้จริงมาจากสีไม้ธรรมชาติจึงจำเป็นต้องทาสีเพิ่มเพื่อความสวยงาม

2.บัวพื้นไม้เทียม

บัวพื้นไม้เทียมเป็นวัสดุที่ทำขึ้นมาทดแทนไม้แบ่งได้  2 รูปแบบ ได้แก่

  • บัวพื้นไม้เทียม (WPC)

บัวพื้นไม้เทียมเป็นเป็นอีกทางเลือกให้เลือกใช้ เพราะมีคุณสมบัติต่างๆที่ทันสมัยและทนทานกว่าไม้จริง ทนความชื้น ทนไฟ อายุใช้งานยาวนาน ต้านปลวก และป้องกันการรั่วซึม จึงหมดปัญหาเรื่องคราบของเหลวต่างๆ ที่อาจจะฝังอยู่ภายใน อีกทั้งการติดตั้งยังไม่ยุ่งยาก เนื่องจากมีส่วนผสมของพลาสติก จึงดัดโค้งให้เข้ากับพื้นได้ง่ายกว่าบัวพื้นไม้จริง และไม่ยุ่งยากเทาไม้จริงช่างมือใหม่ก็สามารถติดตั้งได้

  • บัวพื้นไม้เทียม (MDF)

บัวพื้นไม้ MDF หรือบัวพื้นไม้ลามิเนต เป็นพื้นไม้เทียมที่นิยมใช้กันเพราะราคาไม่แพง อีกทั้งตัววัสดุเรียบเสมอกัน มีคุณสมบัติทนปลวก ทนต่อแรงกระแทกที่สำคัญ ราคาย่อมเยาว์ นอกจากนั้นยังติดตั้งง่ายมากๆช่างมือใหม่ก็ติดตั้งเองได้ แต่ชนิดนี้จะไม่สามารถดัดโค้งได้ตามที่คุณต้องการ ในกรณีที่พื้นไม่เรียบอาจจะทำให้การติดตั้งเป็นไปด้วยความยากลำบาก หรือในบริเวณรอยต่อเข้ามุมต่างๆหากติดตั้งไม่พอดีแล้วยังทำให้มีโอกาสแตกหักได้

3.บัวพื้น PVC

บัวพื้นที่ทำมาจากพลาสติก PVC เป็นหลัก มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดขวน รับแรงกระแทกได้ดี กันน้ำ ปลวกไม่กินและไม่ขึ้นเชื้อรา ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย อีกทั้งยังสามารถยืดหยุ่นได้ดีจึงดัดโค้งง่าย จึงติดตั้งกับผนังที่มีความโค้งได้อย่างง่ายดาย โดยไม่แตกหักเมื่อเทียบกับบัวพื้นชนิดอื่นๆ  แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการตัดโดยใช้ความเร็วหรือการดัดด้วยความร้อน เพราะการเสียดสีด้วยความเร็วส่งผลให้เกิดความร้อนและอาจทำให้เนื้อ PVC ละลายได้

4.บัวพื้นไฟเบอร์ซีเมนต์

บัวพื้นไฟเบอร์ซีเมนต์ วัสดุทำมาจากส่วนผสมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ไม่หดตัวง่าย ทนไฟ ทนปลวกและแมลง โดยมีน้ำหนักมากกว่าบัวพื้นชนิดอื่นๆ อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าชนิดอื่นๆ นอกจากนี้หากต้องการตกแต่งให้มีความสวยงามยังสามารถทาสีทับหน้าลงไปได้ สวนมากตัวนี้คนจะนำไปติดตั้งเองและทาสีทับใหม่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการตัดตั้งบัวพื้น

5.บัวพื้นโพลีสไตรีน

บัวพื้นโพลีสสไตรีน วัสดุทำจากพลาสติกประเภทโฟมโดยการฉีดขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ มีคุณสมบัติความหนาแน่นสูง จนสามารถทำลวดลายเสี้ยนไม้ได้ ทำให้มีความสวยงามเสมือนไม้จริง อีกทั้งยังแข็งแรง ทนไฟ ไม่ดูดซึมนน้ำ ทานเชื้อรา ไม่หดตัวหรือบิดงอ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา โดยส่วนมากจะถูกนำไปใช้ผลิตบัวพื้นเพดาน

 

บัวพื้นหรือที่เรียกว่า บัวเชิงผนัง ให้ประโยชน์หลายประการทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงาม ประโยชน์ของ บัวพื้น 

1. การป้องกัน บัวพื้นเป็นเกราะป้องกันระหว่างผนังกับพื้น ป้องกันผนังเสียหายจากเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดูดฝุ่น ไม้ถูพื้น หรือการกระแทกโดยไม่ได้ตั้งใจ สามารถช่วยปกปิดข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ หรือช่องว่างระหว่างผนังและพื้นได้

2. สุนทรียศาสตร์ บัวพื้นช่วยเพิ่มสัมผัสการตกแต่งห้องด้วยการสร้างรูปลักษณ์ที่สะอาดและสวยงาม สิ่งเหล่านี้สามารถเสริมความสวยงามโดยรวมของพื้นที่ ทำให้ดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้นและได้รับการออกแบบมาอย่างดี

3. การปกปิดสายไฟและท่อ บัวสามารถออกแบบให้มีช่องในตัวหรือส่วนที่กลวงเพื่อให้สามารถปกปิดสายไฟ สายเคเบิล หรือท่อที่วิ่งไปตามผนังได้ ซึ่งช่วยรักษารูปลักษณ์ที่เรียบร้อยและเป็นระเบียบ ลดความยุ่งเหยิงและอันตรายจากการสะดุด

4 บำรุงรักษาง่าย บัวสามารถทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันฝุ่น สิ่งสกปรก และเศษซากที่สะสม ทำให้ทำความสะอาดพื้นและผนังได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเช็ดหรือทาสีได้อย่างง่ายดายเพื่อรักษารูปลักษณ์ไว้

5 ฉนวนกันเสียง บัวพื้นช่วยลดการส่งผ่านเสียงระหว่างห้องโดยทำหน้าที่เป็นเขตกันชน ดูดซับและลดเสียงรบกวน

6. ความต่อเนื่องของการมองเห็น บัวพื้นทำให้การเปลี่ยนแปลงระหว่างวัสดุปูพื้นประเภทต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงความสูงของพื้น ซึ่งสร้างบรรยากาศที่ไร้รอยต่อและน่าดึงดูดทั่วทั้งพื้นที่

7. ความทนทาน บัวพื้นมักทำจากวัสดุเช่นไม้ PVC หรือ MDF ซึ่งมีความทนทานสูงและทนต่อการสึกหรอ

วิธี การติดบัวพื้น แบบง่ายๆเพียง 8 ขั้นตอน

1. วัดและทำเครื่องหมาย เริ่มต้นด้วยการวัดความยาวของผนังที่คุณต้องการติดตั้งบัวพื้น ทำเครื่องหมายการวัดบนผนังโดยใช้ดินสอ

2. ตัดบัว ใช้เลื่อยปรับองศาหรือเลื่อยตัดบัวเป็นมุม 45 องศา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตัดส่วนบัวให้พอดีกับความยาวของผนัง

3. เตรียมผนัง ทำความสะอาดพื้นผิวผนังและขจัดสิ่งสกปรกหรือเศษต่างๆ หากผนังมีพื้นที่ไม่เรียบหรือขรุขระ ให้ใช้กระดาษทรายเพื่อทำให้เรียบ

4. ใช้กาว ใช้กาวสำหรับงานก่อสร้างที่ด้านหลังของชิ้นบัว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กระจายกาวอย่างสม่ำเสมอ

5. วางตำแหน่งบัว วางบัวเข้ากับผนังอย่างระมัดระวัง โดยจัดตำแหน่งให้ตรงกับขนาดที่ทำเครื่องหมายไว้ กดให้แน่นกับผนังเพื่อให้แน่ใจว่ามีการยึดเกาะที่ดี

6. ยึดบัวให้แน่น: หากต้องการยึดบัวให้แน่นยิ่งขึ้น คุณสามารถใช้ตะปูตกแต่งได้ วางตะปูในบริเวณที่ไม่เด่นชัด เช่น ขอบด้านบนของบัวหรือตามมุม

7. อุดช่องว่าง หากมีช่องว่างระหว่างส่วนบัวหรือระหว่างบัวกับผนัง ให้ใช้วัสดุอุดหรือยาแนวเพื่ออุดช่องว่าง ใช้มีดฉาบให้เรียบเพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียน

8 ทาสีหรือตกแต่ง เมื่อบัวได้รับการติดตั้งอย่างแน่นหนาและเติมเต็มช่องว่างแล้ว คุณสามารถทาสีหรือตกแต่งให้เสร็จได้ตามความต้องการ ใช้แปรงหรือลูกกลิ้งทาสีให้สม่ำเสมอ

!! อย่าลืมควรระวังเพื่อความปลอดภัยขณะทำงานกับเครื่องมือและวัสดุ หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับขั้นตอนใดๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสมอ !!

เลือกบัวพื้นสีอะไรดี? ให้เข้ากับตัวบ้าน

เมื่อเลือกสีบัวให้เข้ากับบ้าน สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงโทนสีและสไตล์โดยรวมของบ้านด้วย เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยคุณตัดสินใจมีดังนี้

1. สีที่เข้ากัน มองหาสีบัวที่เข้ากับสีที่มีอยู่ของบ้านคุณ พิจารณาสีของหลังคา ผนัง และส่วนตกแต่งของคุณ หากบ้านของคุณมีโทนสีอบอุ่น เช่น สีเบจหรือสีน้ำตาล ให้เลือกสีบัวที่เป็นโทนสีอบอุ่นที่คล้ายกัน ในทำนองเดียวกัน หากบ้านของคุณมีโทนสีเย็น เช่น สีเทาหรือสีน้ำเงิน ให้เลือกสีบัวที่เป็นโทนสีเย็น

2. คอนทราสต์ หากคุณชอบลุคที่ดูดราม่ากว่านี้ คุณสามารถเลือกสีบัวที่ตัดกับสีบ้านของคุณได้ ตัวอย่างเช่น หากบ้านของคุณเป็นสีขาว บัวสีเข้ม เช่น สีดำหรือสีน้ำเงินกรมท่าสามารถสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นได้

3. การทดสอบตัวอย่าง เป็นความคิดที่ดีเสมอที่จะขอตัวอย่างบัวที่มีสีต่างๆ และตั้งไว้กับภายนอกบ้านของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นว่าสีต่างๆ เข้ากันได้อย่างไรในแสงธรรมชาติ และตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น

ทั้งนี้่โดยรวมแล้ว บัวพื้นให้ทั้งประโยชน์ใช้สอยและการตกแต่ง ทำให้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบตกแต่งภายใน ช่วยปกป้องผนังพร้อมทั้งเพิ่มรูปลักษณ์ที่สวยงามให้กับทุกพื้นที่ การเลือกสีบัวพื้นคุณสามารถเลือกตามความชอบหรือตามสไตล์ของคุณได้เลย เพราะบัวพื้นมีดีไซน์ที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกสไตล์และตามงบประมาณของคุณ แต่หากคุณต้องการความประหยัด อยากออกแบบสีของบัวพื้นได้เองก็สามารถใช้บัวพื้นโพลีสไตรี  ที่สามารถทาสีทับได้ หรือ บัวพื้นไฟเบอร์ซีเมนต์  ซึ่งนิยมใช้งานกันก็เป็นอีกทางเลือก ในการตกแต่งบ้านหรือการเลือกบัวพื้นให้เหมาะกับบ้านตามสไตล์ของคุณ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ หากท่านใดสนใจก็ สามารถ ติดต่อเราได้ tileThailand ครบจบในที่เดียว